วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Project Management 11 ธ.ค. 2554 (บ่าย)

1. การเร่งงาน มีประโยชน์หรือไม่อย่างไร ให้ยกตัวอย่างประกอบ
       การเร่งงานเพื่อทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้น จะต้องทำกับกิจกรรมที่อยู่ในเส้นทางวิกฤต หรือเร่งงานวิกฤตเท่านั้น ทั้งนี้เพราะการเร่งงานที่ไม่ใช่งานวิกฤตจะไม่มีผลทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้นแต่อย่างใด และการเลือกเร่งงานวิกฤตก็จะต้องเลือกเร่งงานที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเร่งรัดต่ำที่สุดก่อน นอกจากนี้การเร่งงานเพื่อทำให้โครงการแล้วเสร็จเร็วขึ้น ก็ควรทำเฉพาะเท่าที่ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเร่งรัดโครงการ มีค่าสูงกว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อการงาน ผลประโยชน์จากการเร่งงานโครงการให้เสร็จเร็วขึ้น
        ตัวอย่างเช่น  งานโครงการขยายฐานผลิตโรงงานเครื่องดืมมีแอลกอฮออลชื่อดัง จากการแปรปรวนของตลาดหลักทรัพย์ สกุลเงิน การเพิ่มสายผลิตภัณใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งรัดงานโครงการ  ที่รัดกุมและรอบครอบแล้ว เพื่อสร้างความเข้มเเข็งให้สายผลิตภัณ ก็จะทำให้การบริหารโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และทำให้งานในส่วนต่างๆ ของโครงการเสร็จตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้


2. การเร่งงาน ท่านคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ อธิบายประกอบเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นอะไร
         เวลา และค่าใช้จ่าย พิจารณางานวิกฤติเพื่อเร่งให้เร็วขึ้นนั้นต้องพิจารณางานวิกฤติที่มีอัตราค่าใช้จ่ายต่อหน่วยเวลาน้อยที่สุด และดำเนินการเร่งงานวิกฤตที่มีต้นทุนการเร่งงานต่ำที่สุดก่อน


3. การเร่งงาน ที่ดี ท่านคิดว่าจะต้องเรียงลำดับความสำคัญจากอะไรก่อนหลัง เพราะ


        การเร่งรัดงาน ควรจัดลำดับความสำคัญจากองค์ประกอบด้านต่างๆ ให้เป็นขั้นเป็นตอนอย่างถูกระบบ เพราะถ้าเราจัดเรียงลำดับความสำคัญของงานไม่ดีพออาจทำให้การบริหารงานทั้งโครงการล้มเหลวไม่เสร็จตามกรอบระยะเวลาและไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่เราวางไว้  ดังนั้นเราควรพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญต่าง ดังนี้
-                   ศึกษาปัญหาและความเป็นไปได้ในแต่ละงานที่จะทำการเร่งรัดงาน
-                   ผลกระทบที่อาจส่งผลไปถึงวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางเอาไว้
-                   ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับงานแต่ละงานที่ต่อเนื่องกันหลังจากการเร่งรัดงาน
-                   ผลกระทบด้านเวลาในการบริหารงานย่อยต่างๆ ที่ลดน้อยลงในแต่ละสายงาน
-                   ผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับงานย่อยส่วนต่างๆในแต่ละสายงาน
-                   ผลกระทบที่อาจส่งผลไปถึงคุณภาพของงานในแต่ละงานที่มีการเร่งรัด


4. การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศใดๆ นั้น การเร่งงานมีส่วนมาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร

         การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศใดๆ นั้น ความเป็นไปได้ในทางการเงินและเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ ความคุ้มค่าของระบบ มีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
           การเร่งรัดงานโครงการและการวางแผนการปฏิบัติงาน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโปรแกรมและระบบสารสนเทศได้อย่างรัดกุมและรอบครอบแล้ว ก็จะช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศบรรลุวัตถุประสงค์และเสร็จลุล่วงตามกรอบระยะเวลาที่เรากำหนดไว้ในตอนเริ่มโครงการอย่างมีคุณภาพได้ .

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554


สอบกลางภาควิชาบริหารโครงการ

คำถาม คือ
โครงการ (Project) ของท่านจะแล้วเสร็จกี่วันหากมีความน่าจะเป็นเท่ากับร้อยละ 83”

ทั้งนี้ ให้ท่านสมมติงานย่อยในแต่โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศใดระบบหนึ่งที่ท่านสนใจ (โดยจะต้องระบุชื่อโครงการ) โดยให้มีงานย่อยอย่างน้อย 15 งาน (ซึ่งจะต้องมีงานทำก่อนและหลัง) โดยแต่ละงานย่อยให้ท่านสมมติ เวลา a (ให้ท่านหาความหมายของ a ว่าคืออะไร) เวลา m (ให้ท่านหาความหมายของ m ว่าคืออะไร) และเวลา b (ให้ท่านหาความหมายของ b ว่าคืออะไร) ทั้งนี้ ท่านจะต้องเขียน AOA และ AON พร้อมให้บอกเส้นทางวิกฤตที่เกิดขึ้น ให้เวลาไม่เกิน 13.30 น. ครับ
โครงการพัฒนาสถานีตำรวจ

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Project Management 20/11/2011



  1. คำถามที่ 1 เอกสาร power point หน้า 13 มีกี่เส้นทาง ที่เป็นไปได้ และเส้นทางใดเป็น critical path พร้อมบอกระยะเวลาที่วิกฤติ
             จากภาพ มีทั้งหมด 3 เส้นทางที่เป็นไปได้คือ


              A - D - I =ใช้ระยะเวลา 0+3+8+6 = 17


              B - E - G - J =ใช้ระยะเวลา 0+5+5+4+4 = 18


              C - F - H - J  = ใช้ระยะเวลา 0+7+5+5+4= 21
      
              ดังนั้น เส้นทางที่เป็น critical path คือ  C - F - H - J ระยะเวลาที่วิกฤติคือ 21


     2.   คำถามที่ 2 ท่านคิดว่า CPM กับ PERT ต่างกันอย่างไร หน้า 19 กับ 26
งานที่เป็นโครงการเป็นงานที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่ชัดเจน แน่นอน และสามารถกระจายออกเป็นงานย่อย ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันได้ งานโครงการถือว่าเป็นงานชั่วคราวที่ไม่ได้ทำตลอดไปเหมือนงานประจำ เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ถือว่าจบโครงการ งานโครงการเป็นงานที่ทำเพียงครั้งเดียว แต่ละโครงการจึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป เช่น แตกต่างกันในด้านเป้าหมาย เวลา งบประมาณ  บุคลากรผู้รับผิดชอบ และทีมงาน เป็นต้น
ในการบริหารงานโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายจำเป็นต้องมีการวางแผน กำหนดขั้นตอนในการทำงาน และควบคุมความก้าวหน้าของโครงการเป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีเครื่องมือ หรือเทคนิคที่ใช้ในการบริหารโครงการที่นิยมใช้กัน ได้แก่ แผนภูมิแกนต์  (Gantt Chart) เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ หรือ เพิร์ต (Project Evaluation and Review Technique: PERT) และ ระเบียบวิธีเส้นทางวิกฤติ หรือ ซีพีเอ็ม (Critical Path Method: CPM)
เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ หรือ PERT และ ระเบียบวิธีเส้นทางวิกฤต หรือ  CPM เป็นเทคนิคเชิงปริมาณด้านการวิเคราะห์ข่ายงาน (Network Analysis) ที่ใช้กันแพร่หลายในการวางแผนและควบคุมงานที่มีลักษณะเป็นงานโครงการ  ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารโครงการสามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จตามเวลาและในงบประมาณที่กำหนด

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส

ชื่อโครงการ ระบบจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส
หน่วยงานที่ดำเนินการ ..........................................................................

                 หลักการและเหตุผล


                ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ละเว็บไซต์ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป สิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลือกเส้นทางที่เหมาะสมให้แก่ผู้ใช้งาน เพราะในบางครั้งผู้ที่สนใจจะท่องเที่ยวในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน อาจไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน หรือ มีเวลาจำกัดในการเดินทาง  ทำให้พลาดโอกาสในการท่องเที่ยวสถานที่บางแห่งได้
                เนื่องจากในเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีการแยกการนำเสนอข้อมูลออกเป็นส่วนๆ  ทำให้ผู้ใช้งานต้องเข้าหลายเว็บไซต์จึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน  เราจึงได้มีการนำเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส เพื่อรวมข้อมูลทั้งหลายที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายนี้ให้เป็นระบบบริการเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมแก่ผู้ใช้บริการ
                ดังนั้นจึงจัดทำโครงงานการจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส ขึ้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเว็บเซอร์วิส ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นว่าจะเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถให้บริการได้ เช่น คำนวณโปรแกรมการจัดเส้นทาง สืบหาข้อมูล ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวได้ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย


                     วัตถุประสงค์ของโครงงาน

พัฒนา เว็บไซต์สำหรับให้บริการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน และ ให้คำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับเวลา และระยะทางที่เหมาะสม โดยใช้เว็บเซอร์วิส



          เป้าหมายและขอบเขตของโครงงาน
เป้าหมาย
1.   ได้เว็บไซต์ที่อำนวยความสะดวกในการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวตามความต้องการได้
2.   ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้ตามเวลาและระยะทางที่ต้องการได้
3.   นักท่องเที่ยวที่ไม่รู้จักเส้นทาง สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ต้องการได้
ขอบเขต
1.   ค้นหาและให้บริการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน
2.   ให้บริการแผนที่ว่าจะใช้เส้นทางไหนในการเดินทางไปยังจุดหมายได้บ้าง
3.   บอกถึงระยะเวลาและระยะทางในการไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง
4.   บอกถึงตำแหน่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันและสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
5.   ให้บริการคำนวณโปรแกรมการจัดเส้นทางการท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน โดยสามารถกำหนด ระยะทาง ระยะเวลา หรือ สถานที่ท่องเที่ยวได้
6.   มีทำเนียบสมาชิก และเก็บสถิติการเข้าใช้ระบบได้
7.   ผู้ดูแลระบบสามารถปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในระบบได้


        แนวคิดการดำเนินโครงการ


             
               วิธีการดำเนินงานโครงงาน
                            1.  ศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและผลงานที่เกี่ยวข้อง                                  
                         2.  กำหนดขอบเขตและเป้าหมายของโครงงาน
                         3.  ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Web Service
                         4.  วิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูลของระบบทั้งหมด
                         5.  ออกแบบและพัฒนา Home page
                                   -  ออกแบบหน้าเว็บเพื่อที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย
                         6.  เขียนโปรแกรมระบบและทดสอบปรับปรุงระบบ
                                - เขียนภาษา JAVA ในการทำ web service
                                   -  เขียนภาษา PHP ในการดึงฐานข้อมูลขึ้นมาแสดงบนเว็บ
                         7.  จัดทำเอกสาร คู่มือการใช้
                         8.  นำเสนอโครงการ


               สถานที่ทำการวิจัย
                     ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

               ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                1. ให้บริการข้อมูล ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวตรงตามความต้องการได้
                2. จัดทำทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
                3. เป็นศูนย์กลางในการให้บริการเส้นทางการท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนคร
                    หลวงเวียงจัน
                4. นำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้



               งบประมาณ


                             75,450 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันสี่ร้อยห้าสิบบาทถ้วน)
             
              แผนการและระยะเวลาดำเนินงาน       



วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ดู vcd การบรรยายของท่านองคมนตรีเกษม วัฒนชัย ทั้ง. 5 ตอนใน แล้วสรุปว่าได้ทราบในประเด็นใดบ้างที่เกี่ยวกับคำว่าโครงการ

-          ระเบิดจากข้างใน:
คือการทำสิ่งใดต้องสร้างฐาน ต้องเริ่มจากความพร้อม ความเห็นพ้องต้องกันในกลุ่มเล็กๆก่อน แล้วค่อยๆ จะมั่นคงถาวร พระองค์ทรมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาคน
-      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนให้ชาวไทยสามารดำรงชิวิตด้วยตนเองได้ไม้ว่าจะเป็นการพึ่งตนเองทั้งทางด้านจิตใจที่ต้องเข้มแข็งมีจิตสำนึกที่ดีสร้างสรรคให้ตนเองและชาติโดยรวม ด้านสังคม ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เชื่อมโยงกันเป็นครือข่ายชุมชนที่แข็งแรงเป็นอิสระหรือแม้กระทั่งด้านเศรฐกิจ ที่ต้องมุ่งลดรายจ่ายก่อนเป็นสำคัญ
-      ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง:
ควรให้การสนับสนุนส่งเสรีมคนดีและคนเก่ง เพราะคนคีและคนเก่งจะเป็นกำลังสำคันในการพัฒนาความเจริญในด้านต่างๆได้เป็นอย่างดีดังพระราชดำรัสที่ว่า
ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อยจีงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมดหากอยู่แค่ที่การส่งเสรีมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
-      ปลูกป่าในใจคน:
เพราะความต้องการอยู่รอดของมนุษย์ ทำให้ต้องการบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมติอย่างสิ้นเปลือง เพื่อประโยชน์ของตนเองและสร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมปัญหาความไม่สมดุลจิงบังเกิดขื้น
ดังนั้น ในการที่จะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมติให้กลับคืนมาจะต้องปลูกจิตสำนึกในการรักผินป่าให้แก่คนเสียก่อน
-      ข้อคิดเห็น:
การบริหารโครงการจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนโยบาย แผนงาน และโครงการเพื่อที่จะได้บริหารโครงการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแผนงานและนโยบายเพือให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

คลังบทความ 3 เรื่อง


การบ้านวันที่ 17/09/2554 คลังบทความ 3 เรื่อง
เข้าไปที่ Blog http://mis-manoon.blogspot.com/ ซึ่งจะมีคลังบทความอยู่ด้านขวามือ มีด้วยกัน 3 เรื่อง โดยให้ทุกท่านอ่านบทความทั้ง 3 ซึ่งจะมีคำถามอยู่ในบทความนั้น แล้วให้เขียนตอบให้ Blog ของท่าน

1. กรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
คำถาม : จากข้อมูลของทั้ง 9 องค์การ ท่านสนใจองค์การใดมากที่สุด เพราะอะไร แล้วหากท่านได้รับมอบหมายในการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์การดังกล่าว (องค์การที่ท่านสนใจมากที่สุดนั้น) ท่านคิดว่าจะพัฒนาระบบอะไรเพิ่มเติม พร้อมในเหตุผล
คำตอบ : การพัฒนาระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ 
               คือการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ควบคู่ไปกับการปรับกระบวนการของกรมศุลกากรให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า e-custom เป็นการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบ Web Application มาใช้ในการบริหารงานศุลกากร พร้อมกับการปรับระบบงานไปสู่ระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ การทำให้ระบบการขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้องทันสมัย ไม่ได้อยู่ที่กรมศุลกากร แต่ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอาหารและยา, กรมประมง, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพจะต้องมีการรวมระบบงานให้เป็นระบบเดียวกัน (one stop service) เพื่อให้การนำเข้า-ส่งออกดำเนินการได้บนหน้าต่างเดียวกัน เรียกว่า กระบวนการเบ็ดเสร็จ ณ หน้าต่างเดียว (single windows)

2. โครงการด้านระบบสารสนเทศที่อาจจะสนองพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
คำถาม : ท่านคิดว่าจะสามารถพัฒนาหรือปรับปรุงระบบสารสนเทศเป็นอย่างแบบใดอย่างไรบ้าง พร้อมให้เหตุผลประกอบ
ตอบ : ในโลกการศึกษายุคโลกาภิวัฒน์ควรจัดรูปแบบการศึกษาครบวงจร ระบบบริหารจัดการเรียนรู้และการเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต (Leraining Management System) เต็มรูปแบบที่ผ่านกระบวนวิจัยและพัฒนา ให้เหมาะสมกับสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นรูปธรรม โดยผสมผสานระบบต่างๆ ไว้ถึง 4 ระบบใหญ่ Web portal Management (WMS) The gateway toEducational Material ระบบการสร้าง Website ใหม่หรือเปลี่ยน Website เก่าที่มีอยู่แล้ว ให้เป็น Website แห่งการเรียนรู้สำหรับครู - อาจารย์ และนักเรียน นักศึกษา รวมถึงผู้ปกครองและชุมชนได้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันอีกทั้งยังปรับปรุงข้อมูลข่าวสารให้มีความเป็นปัจจุบันได้โดยง่าย Course Management Systen (CMS) Learn for all in knowledge Society ระบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อตอบสนองการศึกษาแนวใหม่ในยุค eLearning อย่างเต็มรูปแบบและพัฒนาใต้มาตรฐาน SCORM, AICC ที่ยอมรับกันทั่วโลก โดยระบบนี้มีระบบย่อยต่างๆอีกมากมายที่ครอบคลุมตั้งแต่ การเรียน, การสอน, กิจกรรมการปฎิสัมพันธ์, การทดสอบและการประเมินผล, การแสดงผลงานต่อสาธารณะ Digital Library System (DLS) Deliver online Resource for your Learners ระบบบริหารจัดการห้องสมุดเสมือนบนเครือข่ายที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าใช้เนื้อหาได้พร้อมกันอย่างไม่จำกัดเวลา สถานที่ โดยเนื้อหานั้นจะอยู่ในรูปแบบของดิจิตอลหลากหลายแบบ เช่น eBook, eDocument, DigitalVDO, Digital Sound, Multimedia, Digital Picture, html… User Management System (UMS) Everytime Everywhere We are control ระบบบริหารจัดการสมาชิกใน Website สามารถควบคุมสิทธิการใช้งานได้อย่างเป็นอิสระ โดยสามารถจะจัดกลุ่มเป็นระดับได้ดังต่อไปนี้ กลุ่มผู้ดูแลระบบ กลุ่มอาจารย์ผู้สอน กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มผู้เยี่ยมชมทั่ว ๆ ไป ตามการเข้าไปใช้งานอีกทั้งยังสามารถจัดกลุ่มผู้เรียนตามสภาพจริงได้อีกด้วย


3. โครงการที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ด้านระบบสารสนเทศ
คำถาม : ท่านคิดว่าการพัฒนาระบบสารสนเทศดังกล่าว ควรจะต้องมีระบบ e-service, web-service, front and back office หรือไม่อย่างไร และหากมีควรจะมีอะไรบ้างพร้อมระบุเหตุผลประกอบเพื่อจะได้นำไปปฏิบัิติได้ จริง

คำตอบ : ควรจะต้องมีระบบ e-service, web-service, front and back office เป็นไปได้ควรมีทั้งหมด แต่อย่างน้อยควร e-service และ web-service เพราะ e-service และ web service นั้น จะช่วยให้บริการในด้านข้อมูล ให้ความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการประชาชน และสามารถเป็นศูนย์ในการพัฒนา การจัดการองค์ความรู้เป็นคลังข้อมูลของแต่ละ จังหวัดในสถาบันอุดมศึกษาทุกจังหวัด เพื่อให้จังหวัดภาคส่วนต่างๆได้มีข้อมูลในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนา จังหวัดหรือเพื่อการพัฒนาในด้านอื่นๆ ต่อไป เป็นต้น ทั้งยังเป็นเหตุผลในการ พิจารณาดำเนินโครงการ ศูนย์จัดการความรู้เพื่อพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดมุกดาหาร” โดยมีลักษณะรูปแบบที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ อุตสาหกรรม การเกษตร วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

ศูนย์ข้อมูลกลางทาง วัฒนธรรม

ะบบของศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
            
 กระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับสากลตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม โดยรวบรวมองค์ความรู้ ภูมิปัญญาตั้งแต่ในส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น จนถึงระดับหมู่บ้าน และชุมชน ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรมอันมีคุณค่ายิ่งของประเทศ ที่คนไทยจะต้องร่วมกันรักษา สืบทอด และส่งเสริมวัฒนธรรมในชุมชนให้มีความเข้มแข็ง มาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านส่งเสริมความรู้ และพัฒนาเศรษฐกิจ
      
       “ฐานข้อมูลที่มุ่งเน้นให้บริการประชาชน มีจำนวน ๖ ด้าน ได้แก่ ด้านหอสมุดและจดหมายเหตุ ด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ ด้านอุทยานประวัติศาสตร์ ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และด้านนาฏศิลป์ดนตรี ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อจัดเก็บ วิเคราะห์ประมวลผล การนำเสนอข้อมูลในรูปดิจิทัล และการจัดทำระบบฐานข้อมูลชุมชน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างทรัพยากรบุคคลของทั้งสองกระทรวง ตลอดจนการดำเนินการอื่นๆ ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้การพัฒนาข้อมูลในด้านทุนทางวัฒนธรรมสามารถอำนวยความสะดวกให้การดำเนินงานของกระทรวงฯ เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและความรู้ด้านวัฒนธรรมมากขึ้น
          พร้อมทั้งเสริมสร้าง เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) ภายใต้แนวคิด ETC (Economy, Technology, Culture) ที่เป็นการนำข้อมูลเชิงวัฒนธรรมจากรากหญ้า ที่เกิดจากชุมชน เครือข่าย และข้อมูลจากหน่วยงาน มาผสานกับเทคโนโลยี ทำให้มีการเพิ่มทุนทางวัฒนธรรม ก่อให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยเป้าหมายสูงสุดของความร่วมมือในครั้งนี้ คือการนำขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และฐานข้อมูลทางศิลปวัฒนธรรม และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นการสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศทั้งในด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับศิลปวัฒนธรรมไทย รวมทั้งสร้างโอกาสสำหรับการเข้าถึงเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
      
       สิ่งสำคัญคือการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย โดยนำงานวิจัยของกระทรวงฯเข้ามาสนับสนุน อาทิ ระบบการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์,ระบบแนะนําแผนท่องเที่ยวในจังหวัดอยุธยา,ระบบแนะนําข้อมูลเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยว และเทศกาลไทย บนโทรศัพท์มือถือ , การพัฒนาโปรแกรมออกแบบลวดลายทอผ้าและฐานข้อมูลลายทอผ้าพื้นถิ่นภาคเหนือสําหรับวิสาหกิจชุมชน , โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลชุมชนเพื่อการสืบสานวัฒนธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ,ระบบจัดเก็บองค์ความรู้ถาวรแบบดิจิทัลสําหรับโขน เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

Font Office for Smart Office


การพัฒนาระบบ Font Office ของกรมสรรพสามิตร
           ระบบ Font Office ของกรมสรรพสามิต ควรอยู่ในรูปแบบการบริการ แบบเต็มรูปแบบ
เพื่อการให้ประโยชน์สูงสุดทั้งด้านบริการ โดยมุ่งเน้นให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนงาน
ที่ซ้ำซ้อนลง ตลอดจนการบูรณาการแนวคิด และยุทธศาสตร์ ให้ตอบรับกับระบบงานระหว่าง
ส่วนราชการด้วยกัน (Government to Government: G2G) และระบบงานระหว่างส่วนราชการกับ
ภาคเอกชน (Government to Business: G2B) ซึ่งโดยปกติแล้ว ก็จจากการเร่งรัดะมีการรับ-ส่ง
ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อมระบบกันในภาคธุรกิจต่อธุรกิจ หรือภาคเอกชนด้วย
 (Business to Business: B2B) 


         ด้าน Software

  • ระบบผู้ดูแลระบบของผู้ประกอบ
  • ระบบTax Information (Statistic)
  • ระบบTax Information (Company Profile)
  • ระบบงานติดตามสถานะงานใบอนุญาต
  • ระบบงานติดตามสถานะวิเคราะห์สินค้าและของกลาง
  • ระบบงานแจ้งสูตรการผลิต
  • ระบบงานจดทะเบียนสรรพสามิต
  • ระบบงานแจ้งราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม
  • ระบบงานบันทึกรายการภาษีสรรพสามิตร
  • ระบบงานตรวจสอบข้อมูลการบันทึกรายการภาษี
  • ระบบงานชำระภาษีสรรสามิต
  • ระบบขอคืน ยกเว้นภาษีสรรพสามิต
  • ระบบหักลดหย่อนภาษีสรรพสามิต
         ด้าน Hardware

  • ระบบการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การใช้งานเหมืองข้อมูล(Data mining)ร่วมกันได้ในส่วนประกอบของเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ ผ่านทางระบบจัดการทรัพยากรส่วนกลาง ทำให้มีการใช้งานทรัพยากรไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
  • อุปกรณ์อินเทอร์เน็ตพกพา (Internet Mobile Device) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่นแลการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้นและการขยายตัวในรูปแบบการสื่อสารไม่ว่าจะเป็น ระบบ3G WiFi ดังนั้น Internet Mobile Device สามารถทำให้พนักงานองค์รู้ข่าวเท่าทันเหตุการณ์และสามารถให้บริการได้อย่างทัันท่วงที
  • เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่องท่างในการสื่อสาร การอำนวยความสะดวก ในการให้บริการ การทำงาน
       ด้าน Peopelware
  • ด้านเจ้าหน้าที่และบุคลากร   ควรได้รับการอบรมการใช้ระบบอย่างดีเพื่อให้บริการได้อย่างเต้มประสิทธิภาพ  
  • การอบรมการบริการอย่างสุภาพและเป็นกันเอง  รวมไปถึงการสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการด้วย