vls dalasouk
วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554
Project Management 11 ธ.ค. 2554 (บ่าย)
1. การเร่งงาน มีประโยชน์หรือไม่อย่างไร ให้ยกตัวอย่างประกอบ
การเร่งงานเพื่อทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้น จะต้องทำกับกิจกรรมที่อยู่ในเส้นทางวิกฤต หรือเร่งงานวิกฤตเท่านั้น ทั้งนี้เพราะการเร่งงานที่ไม่ใช่งานวิกฤตจะไม่มีผลทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้นแต่อย่างใด และการเลือกเร่งงานวิกฤตก็จะต้องเลือกเร่งงานที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเร่งรัดต่ำที่สุดก่อน นอกจากนี้การเร่งงานเพื่อทำให้โครงการแล้วเสร็จเร็วขึ้น ก็ควรทำเฉพาะเท่าที่ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเร่งรัดโครงการ มีค่าสูงกว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อการงาน ผลประโยชน์จากการเร่งงานโครงการให้เสร็จเร็วขึ้น
ตัวอย่างเช่น งานโครงการขยายฐานผลิตโรงงานเครื่องดืมมีแอลกอฮออลชื่อดัง จากการแปรปรวนของตลาดหลักทรัพย์ สกุลเงิน การเพิ่มสายผลิตภัณใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งรัดงานโครงการ ที่รัดกุมและรอบครอบแล้ว เพื่อสร้างความเข้มเเข็งให้สายผลิตภัณ ก็จะทำให้การบริหารโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และทำให้งานในส่วนต่างๆ ของโครงการเสร็จตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
2. การเร่งงาน ท่านคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ อธิบายประกอบเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นอะไร
เวลา และค่าใช้จ่าย พิจารณางานวิกฤติเพื่อเร่งให้เร็วขึ้นนั้นต้องพิจารณางานวิกฤติที่มีอัตราค่าใช้จ่ายต่อหน่วยเวลาน้อยที่สุด และดำเนินการเร่งงานวิกฤตที่มีต้นทุนการเร่งงานต่ำที่สุดก่อน
3. การเร่งงาน ที่ดี ท่านคิดว่าจะต้องเรียงลำดับความสำคัญจากอะไรก่อนหลัง เพราะ
การเร่งรัดงาน ควรจัดลำดับความสำคัญจากองค์ประกอบด้านต่างๆ ให้เป็นขั้นเป็นตอนอย่างถูกระบบ เพราะถ้าเราจัดเรียงลำดับความสำคัญของงานไม่ดีพออาจทำให้การบริหารงานทั้งโครงการล้มเหลวไม่เสร็จตามกรอบระยะเวลาและไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่เราวางไว้ ดังนั้นเราควรพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญต่าง ดังนี้
4. การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศใดๆ นั้น การเร่งงานมีส่วนมาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
การเร่งงานเพื่อทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้น จะต้องทำกับกิจกรรมที่อยู่ในเส้นทางวิกฤต หรือเร่งงานวิกฤตเท่านั้น ทั้งนี้เพราะการเร่งงานที่ไม่ใช่งานวิกฤตจะไม่มีผลทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการเสร็จเร็วขึ้นแต่อย่างใด และการเลือกเร่งงานวิกฤตก็จะต้องเลือกเร่งงานที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเร่งรัดต่ำที่สุดก่อน นอกจากนี้การเร่งงานเพื่อทำให้โครงการแล้วเสร็จเร็วขึ้น ก็ควรทำเฉพาะเท่าที่ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเร่งรัดโครงการ มีค่าสูงกว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อการงาน ผลประโยชน์จากการเร่งงานโครงการให้เสร็จเร็วขึ้น
ตัวอย่างเช่น งานโครงการขยายฐานผลิตโรงงานเครื่องดืมมีแอลกอฮออลชื่อดัง จากการแปรปรวนของตลาดหลักทรัพย์ สกุลเงิน การเพิ่มสายผลิตภัณใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งรัดงานโครงการ ที่รัดกุมและรอบครอบแล้ว เพื่อสร้างความเข้มเเข็งให้สายผลิตภัณ ก็จะทำให้การบริหารโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และทำให้งานในส่วนต่างๆ ของโครงการเสร็จตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
2. การเร่งงาน ท่านคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ อธิบายประกอบเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นอะไร
เวลา และค่าใช้จ่าย พิจารณางานวิกฤติเพื่อเร่งให้เร็วขึ้นนั้นต้องพิจารณางานวิกฤติที่มีอัตราค่าใช้จ่ายต่อหน่วยเวลาน้อยที่สุด และดำเนินการเร่งงานวิกฤตที่มีต้นทุนการเร่งงานต่ำที่สุดก่อน
3. การเร่งงาน ที่ดี ท่านคิดว่าจะต้องเรียงลำดับความสำคัญจากอะไรก่อนหลัง เพราะ
การเร่งรัดงาน ควรจัดลำดับความสำคัญจากองค์ประกอบด้านต่างๆ ให้เป็นขั้นเป็นตอนอย่างถูกระบบ เพราะถ้าเราจัดเรียงลำดับความสำคัญของงานไม่ดีพออาจทำให้การบริหารงานทั้งโครงการล้มเหลวไม่เสร็จตามกรอบระยะเวลาและไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่เราวางไว้ ดังนั้นเราควรพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญต่าง ดังนี้
- ศึกษาปัญหาและความเป็นไปได้ในแต่ละงานที่จะทำการเร่งรัดงาน
- ผลกระทบที่อาจส่งผลไปถึงวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางเอาไว้
- ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับงานแต่ละงานที่ต่อเนื่องกันหลังจากการเร่งรัดงาน
- ผลกระทบด้านเวลาในการบริหารงานย่อยต่างๆ ที่ลดน้อยลงในแต่ละสายงาน
- ผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับงานย่อยส่วนต่างๆในแต่ละสายงาน
- ผลกระทบที่อาจส่งผลไปถึงคุณภาพของงานในแต่ละงานที่มีการเร่งรัด
4. การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศใดๆ นั้น การเร่งงานมีส่วนมาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศใดๆ นั้น ความเป็นไปได้ในทางการเงินและเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ ความคุ้มค่าของระบบ มีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
การเร่งรัดงานโครงการและการวางแผนการปฏิบัติงาน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโปรแกรมและระบบสารสนเทศได้อย่างรัดกุมและรอบครอบแล้ว ก็จะช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศบรรลุวัตถุประสงค์และเสร็จลุล่วงตามกรอบระยะเวลาที่เรากำหนดไว้ในตอนเริ่มโครงการอย่างมีคุณภาพได้ .
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สอบกลางภาควิชาบริหารโครงการ
คำถาม คือ
“โครงการ (Project) ของท่านจะแล้วเสร็จกี่วันหากมีความน่าจะเป็นเท่ากับร้อยละ 83”
ทั้งนี้ ให้ท่านสมมติงานย่อยในแต่โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศใดระบบหนึ่งที่ท่านสนใจ (โดยจะต้องระบุชื่อโครงการ) โดยให้มีงานย่อยอย่างน้อย 15 งาน (ซึ่งจะต้องมีงานทำก่อนและหลัง) โดยแต่ละงานย่อยให้ท่านสมมติ เวลา a (ให้ท่านหาความหมายของ a ว่าคืออะไร) เวลา m (ให้ท่านหาความหมายของ m ว่าคืออะไร) และเวลา b (ให้ท่านหาความหมายของ b ว่าคืออะไร) ทั้งนี้ ท่านจะต้องเขียน AOA และ AON พร้อมให้บอกเส้นทางวิกฤตที่เกิดขึ้น ให้เวลาไม่เกิน 13.30 น. ครับ
“โครงการ (Project) ของท่านจะแล้วเสร็จกี่วันหากมีความน่าจะเป็นเท่ากับร้อยละ 83”
ทั้งนี้ ให้ท่านสมมติงานย่อยในแต่โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศใดระบบหนึ่งที่ท่านสนใจ (โดยจะต้องระบุชื่อโครงการ) โดยให้มีงานย่อยอย่างน้อย 15 งาน (ซึ่งจะต้องมีงานทำก่อนและหลัง) โดยแต่ละงานย่อยให้ท่านสมมติ เวลา a (ให้ท่านหาความหมายของ a ว่าคืออะไร) เวลา m (ให้ท่านหาความหมายของ m ว่าคืออะไร) และเวลา b (ให้ท่านหาความหมายของ b ว่าคืออะไร) ทั้งนี้ ท่านจะต้องเขียน AOA และ AON พร้อมให้บอกเส้นทางวิกฤตที่เกิดขึ้น ให้เวลาไม่เกิน 13.30 น. ครับ
โครงการพัฒนาสถานีตำรวจ
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
Project Management 20/11/2011
- คำถามที่ 1 เอกสาร power point หน้า 13 มีกี่เส้นทาง ที่เป็นไปได้ และเส้นทางใดเป็น critical path พร้อมบอกระยะเวลาที่วิกฤติ
A - D - I =ใช้ระยะเวลา 0+3+8+6 = 17
B - E - G - J =ใช้ระยะเวลา 0+5+5+4+4 = 18
C - F - H - J = ใช้ระยะเวลา 0+7+5+5+4= 21
ดังนั้น เส้นทางที่เป็น critical path คือ C - F - H - J ระยะเวลาที่วิกฤติคือ 21
2. คำถามที่ 2 ท่านคิดว่า CPM กับ PERT ต่างกันอย่างไร หน้า 19 กับ 26
งานที่เป็นโครงการเป็นงานที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่ชัดเจน แน่นอน และสามารถกระจายออกเป็นงานย่อย ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันได้ งานโครงการถือว่าเป็นงานชั่วคราวที่ไม่ได้ทำตลอดไปเหมือนงานประจำ เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ถือว่าจบโครงการ งานโครงการเป็นงานที่ทำเพียงครั้งเดียว แต่ละโครงการจึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป เช่น แตกต่างกันในด้านเป้าหมาย เวลา งบประมาณ บุคลากรผู้รับผิดชอบ และทีมงาน เป็นต้น
ในการบริหารงานโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายจำเป็นต้องมีการวางแผน กำหนดขั้นตอนในการทำงาน และควบคุมความก้าวหน้าของโครงการเป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีเครื่องมือ หรือเทคนิคที่ใช้ในการบริหารโครงการที่นิยมใช้กัน ได้แก่ แผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart) เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ หรือ เพิร์ต (Project Evaluation and Review Technique: PERT) และ ระเบียบวิธีเส้นทางวิกฤติ หรือ ซีพีเอ็ม (Critical Path Method: CPM)
เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ หรือ PERT และ ระเบียบวิธีเส้นทางวิกฤต หรือ CPM เป็นเทคนิคเชิงปริมาณด้านการวิเคราะห์ข่ายงาน (Network Analysis) ที่ใช้กันแพร่หลายในการวางแผนและควบคุมงานที่มีลักษณะเป็นงานโครงการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารโครงการสามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จตามเวลาและในงบประมาณที่กำหนด
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
การจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส
ชื่อโครงการ ระบบจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส
หน่วยงานที่ดำเนินการ ..........................................................................
หลักการและเหตุผล
แนวคิดการดำเนินโครงการ
วิธีการดำเนินงานโครงงาน
สถานที่ทำการวิจัย
งบประมาณ
75,450 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันสี่ร้อยห้าสิบบาทถ้วน)
แผนการและระยะเวลาดำเนินงาน
หน่วยงานที่ดำเนินการ ..........................................................................
หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ละเว็บไซต์ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป สิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลือกเส้นทางที่เหมาะสมให้แก่ผู้ใช้งาน เพราะในบางครั้งผู้ที่สนใจจะท่องเที่ยวในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน อาจไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน หรือ มีเวลาจำกัดในการเดินทาง ทำให้พลาดโอกาสในการท่องเที่ยวสถานที่บางแห่งได้
เนื่องจากในเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีการแยกการนำเสนอข้อมูลออกเป็นส่วนๆ ทำให้ผู้ใช้งานต้องเข้าหลายเว็บไซต์จึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เราจึงได้มีการนำเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส เพื่อรวมข้อมูลทั้งหลายที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายนี้ให้เป็นระบบบริการเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมแก่ผู้ใช้บริการ
ดังนั้นจึงจัดทำโครงงานการจัดการเส้นทางการท่องเที่ยวของแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจันด้วยเว็บเซอร์วิส ขึ้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเว็บเซอร์วิส ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นว่าจะเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถให้บริการได้ เช่น คำนวณโปรแกรมการจัดเส้นทาง สืบหาข้อมูล ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวได้ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
พัฒนา เว็บไซต์สำหรับให้บริการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน และ ให้คำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับเวลา และระยะทางที่เหมาะสม โดยใช้เว็บเซอร์วิส
เป้าหมายและขอบเขตของโครงงาน
เป้าหมาย
1. ได้เว็บไซต์ที่อำนวยความสะดวกในการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวตามความต้องการได้
2. ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้ตามเวลาและระยะทางที่ต้องการได้
3. นักท่องเที่ยวที่ไม่รู้จักเส้นทาง สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ต้องการได้
ขอบเขต
1. ค้นหาและให้บริการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน
2. ให้บริการแผนที่ว่าจะใช้เส้นทางไหนในการเดินทางไปยังจุดหมายได้บ้าง
3. บอกถึงระยะเวลาและระยะทางในการไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง
4. บอกถึงตำแหน่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันและสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
5. ให้บริการคำนวณโปรแกรมการจัดเส้นทางการท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนครหลวงเวียงจัน โดยสามารถกำหนด ระยะทาง ระยะเวลา หรือ สถานที่ท่องเที่ยวได้
6. มีทำเนียบสมาชิก และเก็บสถิติการเข้าใช้ระบบได้
7. ผู้ดูแลระบบสามารถปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในระบบได้
แนวคิดการดำเนินโครงการ
วิธีการดำเนินงานโครงงาน
1. ศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและผลงานที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดขอบเขตและเป้าหมายของโครงงาน
3. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Web Service
4. วิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูลของระบบทั้งหมด
5. ออกแบบและพัฒนา Home page
- ออกแบบหน้าเว็บเพื่อที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย
6. เขียนโปรแกรมระบบและทดสอบปรับปรุงระบบ
- เขียนภาษา JAVA ในการทำ web service
- เขียนภาษา PHP ในการดึงฐานข้อมูลขึ้นมาแสดงบนเว็บ
7. จัดทำเอกสาร คู่มือการใช้
8. นำเสนอโครงการ
สถานที่ทำการวิจัย
ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ให้บริการข้อมูล ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวตรงตามความต้องการได้
2. จัดทำทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
3. เป็นศูนย์กลางในการให้บริการเส้นทางการท่องเที่ยวภายในแขวงกำแพงนคร
หลวงเวียงจัน
หลวงเวียงจัน
4. นำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้
งบประมาณ
75,450 บาท (เจ็ดหมื่นห้าพันสี่ร้อยห้าสิบบาทถ้วน)
แผนการและระยะเวลาดำเนินงาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)